ถูกทักว่าเป็นเนื้อคู่

เรื่อง "ถูกทักว่าเป็นเนื้อคู่"


เรื่องเมื่อปี 2560 ที่ผมได้ไปพบเจอเด็กสาวคนหนึ่งทักเข้ามาในแฟนเพจ ซึ่งก็ดูปกติดี น้องเค้าก็เข้ามาทักเพื่อจะขอดูดวงแบบทางโทรศัพท์ ซึ่งผมก็นัดเวลากันว่า ประมาณ 2 ทุ่มแล้วเราคุยกัน

น้องเค้าก็มาตามเวลา เราก็คิดว่า ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความรักธรรมดาทั่วไปกับเด็กวัย 15 - 18 ปี แต่หลังจากที่คุยความคิดก็เปลี่ยนไป

น้องเค้าชื่อ น้องคิว เค้าเป็นเด็กมัธยมวัยใส ที่มีความกล้าคิด กล้าทำ มีความตั้งใจอยากเรียนนิเทศศาสตร์ ชอบทำกิจกรรม และก็เป็นคนอัธยาศัยดี มีเพื่อนฝูงเยอะ ซึ่งดูแล้วก็น่าจะไปได้สวย ไม่มีอะไรติดขัด

ก็เริ่มเรื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของน้องเค้าก็ดูปกติดี จากไพ่ที่ไม่ได้สื่อถึงปัญหาอะไรที่น่าหัว ปัญหาเรื่องแรกที่น้องเค้าถามคือเรื่องเรียน ซึ่งก็ทำนายกันไปแบบไม่ติดขัดอะไร เราก็เปิดไพ่แนะนำถึงโอกาสต่างๆในเรื่องเรียนของน้องเค้า บวกกับหาความถนัดของน้องเค้า และสิ่งที่ชอบและน่าจะทำได้ดี เพื่อส่งเสริมให้น้องเค้าไปได้ไกลขึ้นในเรื่องเรียน แต่หลังจากเรื่องเรียนนั้น ก็เข้าสู่อีกบรรยากาศนั่นคือเรื่องความรักนั่นเอง

โดยน้องคิวเปิดเรื่องว่า ตอนนี้หนูเลิกกับแฟนหนูที่ชื่อบี หนูจะมีโอกาสได้กลับมาคบกันอีกไหม เราก็เปิดได้ ไพ่ 3 ดาบ ซึ่งแปลได้ว่า โอกาสที่หนูเค้าจะไม่สมหวังนั้นก็สูงมากเหลือเกิน อีกทั้ง เปิดไพ่แก้สถานการณ์ให้น้องเค้า ก็ยังลำบากที่จะได้แฟนคนนี้กลับมา หลังจากพูดคุยได้สักพัก น้องคิวเค้าก็เล่าว่า หนูเสียเค้าไปไม่ได้ หนูขาดเค้าไม่ได้ เราก็ถามว่า ทำไมล่ะ อนาคตหนูก็ยังอีกไกล มีโอกาสได้พบคนอีกตั้งมากมาย และอาจจะดีกว่าที่น้องคิวเจออยู่ก็ได้ น้องคิวก็ยังพูดย้ำว่า ไม่ค่ะต้องเป็น บี บีเท่านั้น!! ผมก็เลยถามว่า ทำไมถึงคิดแบบนั้น น้องคิวก็เล่าว่า ก่อนหน้าที่จะมาดูดวงกับผม เค้าได้ไปดูดวงกับหมอดูเจ้าหนึ่งมา และก็ได้ทักน้องเค้ากับแฟนบีคนนี้ว่า เป็นเนื้อคู่กัน และคงยากที่จะเลิกกัน เพียงเท่านั้นแหละ ผมก็เข้าใจทันทีว่า นี้มันเป็นปม ที่ถูกสร้างขึ้นจากหมอดูท่านก่อน น้องคิวก็เล่าต่อไปอีกนิด แต่ใจความสำคัญก็คือ นี่เป็นเนื้อคู่ของน้องคิว เลยทำให้ตัดใจไม่ได้ ยังคงต้องเอากลับมาให้ได้ ไม่งั้นจะไร้คู่อีก นี่คือสิ่งที่น้องคิวฝังใจและยึดติดกับคำนี้ไปแล้ว

นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่ผมจะต้องหาทางออกให้กับน้องคิวคนนี้ ไพ่ที่เปิดมาว่าใช่คู่ไหม ก็ไม่แสดงออก แต่ปัญหาระหว่างกันก็ยังยากที่จะกลับมาคบกันเหมือนเดิม ผมจึงเปิดไพ่ต่อไปที่บอกถึงลักษณะ คนที่จะเข้ามาในอนาคตอันใกล้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งมีโอกาสที่จะพัฒนาความสัมพันธ์เป็นแฟนของน้องคิวได้ในอนาคต และแนะนำด้วยประสบการณ์ของเราให้กับน้องเค้า ว่าสิ่งที่น้องเชื่อมันทำร้ายน้องคิวอยู่ พูดไปแล้วน้องคิวก็พูดว่า พี่รู้มั๊ยว่า หนูไม่กล้าทำอะไรเลย กลัวไปหมด กลัวจะเสียเค้าไป กลัวว่าหนูจะไม่เหลือใคร หนูเชื่อว่าเค้าคือเนื้อคู่ของหนูเพราะหมอดูคนนั้นพูดไว้ ผมเลยทำการเตือนสติและแนะนำหนทางการแก้ปัญหาด้วยการเปิดใจ และให้น้องคิวรับฟังถึงเสียงข้างในของตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่พูดกันไปสักพัก เสียงสะอื้นของน้องคิวก็ค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นน้ำตาของการคลายปมที่น้องเค้าผูกเอาไว้ และคำขอบคุณจากน้องคิวที่มีความมั่นใจขึ้นในการกล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัญหาความรักของเค้า

หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ที่ได้ดูดวงให้น้องคิวไป น้องคิวก็มาอัพเดตให้ผมฟังว่า เค้าเริ่มรู้สึกมั่นใจตัวเองอีกครั้ง รู้สึกกล้าที่จะสู้กับปัญหา กล้าที่จะเดินต่อ แม้จะไม่ได้สมหวังกับรักที่ผ่านมาแล้วก็ตาม ขอบคุณที่เปลี่ยนหนูให้กล้าขึ้นอีกครั้ง และก็ทำให้หนูมั่นใจกับอนาคตดีๆที่จะรอหนูอยู่อีกครั้ง หลังจากนั้นก็ได้ข่าวของน้องคิวอีกว่า มีรักครั้งใหม่ที่ดีกว่าเดิมเสียแล้ว

จากเหตุการณ์ที่เราได้อ่านข้างต้น จะเห็นว่า คำถามที่ว่า "คนๆนี้เป็นเนื้อคู่รึเปล่า" เป็นดาบสองคมที่อันตราย เมื่อเราได้ยินคำเหล่านี้ เราอาจจะไม่ทันรู้ตัวว่า เราได้จำคำนั้นไปเสียแล้ว หลายๆคนมักจะชอบที่จะได้ถูกทักว่า คนที่คบอยู่เป็นเนื้อคู่นะ เพื่อเพิ่มความสบายใจในการคบหากัน แต่ที่ไหนได้ มันกลับเป็นเชือกที่มัดความรู้สึกและความคิดบางอย่างเอาไว้ จนทำให้มันเป็นปมในหัวใจของเค้าไปโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นเวลาผมทำนาย ผมจะพูดแค่ว่า คนๆนี้คบแล้วจะส่งผลแบบนี้ ส่งเสริมเราแบบนั้น คบได้นะ ดีนะ มากกว่าการฟันธงให้ว่า คนๆนี้เป็นเนื้อคู่ เพราะว่า ผมไม่อยากจะสร้างปมหรือปัญหาที่รอระเบิดในอนาคต เพราะฉะนั้นในอนาคต ถ้าจะถามเรื่องความรัก ให้ถามว่า จะทำยังไงให้รักของเราไปได้ยาวนานขึ้น จะดีกว่า เพราะเรื่องเนื้อคู่ มันเกิดจากการที่เราเลือก และตัดสินใจเอง เลยทำให้มีคู่เป็นคนๆนั้น นั่นเอง เพราะมันไม่เคยมีเรื่องบังเอิญอยู่บนโลก มันมีจังหวะของมันเสมอ


 


อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ : www.banktarot.com