ทำไมไม่สมหวัง ?

"ทำไมไม่สมหวัง ?" 

.

.

มีชายหญิงคู่หนึ่ง รักกันมาก

คบกันมา 3 ปี ทั้งสองตกลงจะแต่งงานกัน

เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย 

ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน

.

.

ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า.. 

คู่รักของตนแต่งงานกับชายอื่นอย่างกะทันหัน ! 

โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด

เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้งงงและเสียใจมาก

ร้องไห้.. ไม่กินไม่นอน 

ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ

.

.

เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ

ไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น

เพราะใจยึดแต่ความทุกข์โศก

.

.

ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น 

มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา หยุดอยู่ที่หน้าบ้าน 

เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า เป็นพระ 

จึงบอกว่า " ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า"

.

.

หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า 

"อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต 

ในบ้านมีคนป่วยใช่ไหม 

อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์บ้าง

ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว"

.

.

เด็กรับใช้  ฟังแล้วก็อึ้ง ได้แต่บอกว่า 

ตัดสินใจเองไม่ได้  ขอไปถามเจ้านายก่อน 

พอเด็กรับใช้ไปถาม  

เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่า 

"อยากเข้ามา ก็เข้ามา!"

.

.

เมื่อหลวงตาเข้าไปที่ห้องนอนก็พบว่า

ชายคนนั้นนอนอย่างหมดอาลัยตายอยาก

สีหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอม

ประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ 

เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา 

พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น

หลวงตายิ้มแล้วพูดว่า "อาการหนักเลยนะ"

.

.

ชายคนนั้น นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด

หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี จึงกล่าวว่า

"โทรมมากเหลือเกิน" 

หลวงตาบอกว่า "ไม่เชื่อ ลองมองที่กระจกสิ"

ชายคนนั้นก็ไม่สนใจ 

แต่...หางตาเขา 

ชายมองไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน

.

.

เขามองเห็นภาพ "หญิงที่รัก" อยู่ในนั้น 

ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป

กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล

.

.

ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ 

ไม่มีคนผ่านไปมา ขณะที่ชายคนที่ป่วย 

มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น 

เขากลับพบว่า...

มี "ศพหญิงสาว" นอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด

.

.

เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา

เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ 

แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว

.

.

ต่อมาพักใหญ่ มีชายอีกคนเดินผ่านมา 

เขามองเห็นศพนั้น รู้สึกสงสาร 

จึงถอดเสื้อนอกออกมา

คลุมร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป

.

.

พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา

เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู 

เมื่อพบว่า เป็นศพ ด้วยใจสงสาร 

คิดอยากจะฝังให้เรียบร้อย 

แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด

เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้งสองข้าง 

ค่อยๆกอบโกยทรายขึ้นมา 

เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น 

พอได้หลุมใหญ่พอสมควร

จึงฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อย..แล้วจากไป

.

.

จากนั้น..ภาพในกระจก..

ก็เปลี่ยนจากศพหญิงคนนั้น 

เป็นภาพของหญิงคนรัก เขาตกใจ

พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2

(ที่ถอดเพียงเสื้อมาคลุมศพ)

แล้วก็ค่อยๆจางหายไป...

เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก

.

.

ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า 


"ทีนี้เข้าใจหรือยัง..ศพนั้นคือคู่รักของโยม 

ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ 

ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ 

ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา 

ส่วนโยมเป็นชายที่ช่วยคลุมศพเธอ 

จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปีแล้ว

วาสนาสิ้นแล้ว..ก็ต้องจากกัน"

.

.

เมื่อชายคนนั้นฟังจบ ก็กระอักเลือดออกมา 

เด็กรับใช้ตกใจมาก

หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า 


"โยมรอดแล้ว..กระอักเลือดเสียออกมาแล้ว"

.

.

ต่อมาไม่นาน..ชายคนนั้นก็ได้ออกบวช

ติดตามหลวงตารูปนั้นในที่สุด

.

.

คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง ,

ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ 

ไม่ใช่สิ่งเลื่อนลอย

เมื่อมีวาสนา ไม่ต้องเรียกร้อง ถึงเวลาก็มาเจอกัน

เมื่อสิ้นวาสนา ก็ต้องจากกัน รั้งยังไงก็ไม่อยู่

.

.

ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้ 

คุณได้ทำดีต่อคนใกล้ชิดของคุณหรือยัง

เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน 

ไม่ว่าคุณจะมีเงิน มีรูปโฉมหล่อสวยแค่ไหน

หรือมีอำนาจล้นฟ้า..

ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้

.

.

ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้ว่า 

เราจะต้องจากกันเมื่อไหร่ 

.

.

ทุกๆ วจีกรรม กายกรรม และมโนกรรม 

ที่เรานึกคิด เราพูด เรากระทำ..

ล้วนเป็นกรรมหมด อยู่ที่เจตนาเป็นบุญหรือบาป 

ล้วนส่งผลต่อปัจจุบันและอนาคตทั้งนั้น