🤔ทำไม เปลี่ยนความคิด แต่… ชีวิตไม่เปลี่ยน🤔
ก่อนอื่นขอบอกว่ายาวหน่อย แต่อยากให้อ่าน🤓🤓
🤔ทำไม เปลี่ยนความคิด แต่… ชีวิตไม่เปลี่ยน🤔
โลกสอนให้เราเปลี่ยนความคิด บอกว่า "เปลี่ยนความคิดแล้วชีวิตจะเปลี่ยน"
แต่ในความเป็นจริงพบว่าหลายครั้งที่เราเปลี่ยนความคิดแล้วแต่ชีวิตของเราก็ยังย่ำอยู่กับที่เหมือนเดิม
นั่นเป็นเพราะ..เรารู้ว่าเราควรทำอะไร แต่..เราก็ยังควบคุมตัวเองให้ทำสิ่งที่ควรทำไม่ได้ เหมือนคนคิดดีแต่ทำดีไม่ได้พูดง่ายๆ ว่า “คิดอย่างทำอีกอย่าง”
เช่นเรารู้ว่าโกรธไม่ดี แต่เราก็ยังโกรธ
เรารู้ว่าควรจะเงียบ แต่เราก็ยังพูด
รู้ว่าไม่ควรรัก แต่ก็ยังรัก
รู้ว่าไม่ควรเสียใจ แต่ก็ยังเสียใจ
รู้ว่าไม่ควรโกหก แต่ก็ยังโกหก
รู้ว่าควรปล่อยวาง แต่ก็ยังยึดติด แบบนี้ เป็นต้น
จะเห็นว่า กระบวนการของความคิด มักมีอย่างอื่นมาแทรกแซงอยู่เสมอ ความคิดที่ไม่ได้เป็นอิสระ ความคิดที่ไม่ได้มีอานุภาพเหนือสิ่งอื่นใด
เพราะฉะนั้น เมื่อเปลี่ยนความคิดชีวิตไม่เปลี่ยน สิ่งที่เราต้องเปลี่ยนคือ... 😇 จิต 😇 ...
เปลี่ยนโดยอาศัยกระบวนการของจิต ที่เข้าไปรู้ทันความคิด หมายถึง การรู้ตัวอยู่เสมอว่าเรากำลังคิดทำอะไร
จิตเป็นนาย ความคิดเป็นบ่าว ส่วนร่างกายเป็นทาส ถ้าเราควบคุมเจ้านายใหญ่ได้
ถึงตอนนั้นเราจะเป็นผู้ใช้ความคิดโดยไม่ถูกความคิดเล่นงาน
“ใช้ความคิด แต่ไม่ถูกความคิดใช้” คือ เคล็ดลับของความสำเร็จ
ถ้าเรายังฝึกจิตไม่ได้ แต่อยากจะพัฒนา อย่างแรกที่ควรจะทำเลยคือ "ย้ายตัวเองไปอยู่ที่มีพลังด้านบวกเยอะ ๆ" เอาตัวเองไปอยู่ในที่ดี ๆ เสพสิ่งดี ๆ เราก็จะกลายเป็นคนที่ดีขึ้น ดังคำที่ว่า "เมื่อเราเสพอะไรมาก ๆ เราจะกลายเป็นสิ่งนั้น" แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเอาตัวเองไปอยู่ที่แย่ ๆ เสพแต่สิ่งร้าย ๆ สุดท้ายเราก็จะกลายเป็นคนที่เอาแต่กลัว ชีวิตแย่ลงเรื่อย ๆ และไม่มีทางเก่งขึ้นได้เลย
การย้ายตัวเองนี้ทำได้ทั้งทางโลกจริงและโลกเสมือนนะ โลกจริงคือการไปอยู่ในสังคมที่ดี ส่วนโลกเสมือนก็เช่นพวก Social Network อย่าง Facebook ก็ต้องหันไป Follow คนที่มีความคิดดี ๆ แล้วชีวิตคุณจะดีขึ้นจากการรับพลังด้านบวก
ในขณะเดียวกัน การรับพลังด้านบวกอย่างเดียวก็ยังไม่พอ ต้องรู้จักปิดกั้นพลังด้านลบไม่ให้เข้ามาในชีวิตด้วย ในโลกจริงก็เหมือนเดิม สังคมไหนไม่ดีก็อย่าเข้าไปร่วมสังคมด้วย ในโลกเสมือน ... พวกที่เน้นสร้างความเกลียดชังหรือแม้แต่เพื่อนที่ชอบโพสต์เรื่องลบ ๆ วันดีคืนดีก็เอาแต่โพสต์ด่าคนอื่น เราแนะนำให้ควรเลิกติดตามเสีย
เพราะพลังด้านลบมักจะมีผลมากกว่าพลังด้านบวกเสมอ ถ้ายังติดตามคนพวกนี้และรับพลังลบ ๆ เข้าไป เราก็จะพลอยลบไปด้วย แล้วพอถึงจุดนึงจะดึงกลับมาไม่ได้อีกเลย แล้วชีวิตคุณจะมีแต่แย่ลง...
ลองดูนะค่ะ ว่าคุณชื่นชอบการกระทำของใคร ชอบนิสัยของใคร ชอบวิธีคิดของใคร แล้วก็ติดตามเรื่องราวของคน ๆ นั้น จากนั้นความคิดของ Idol ผู้นั้นจะค่อย ๆ ไหลซึมมาสู่เราเอง แล้วความคิดของเราจะดีขึ้นโดยไม่รู้ตัว และชีวิตเราก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ เอง
พาตัวเองไปให้ถึงจุดนั้น สิ่งที่ต้องทำก็มีไม่มาก ... รับพลังจากคนที่มีความเชื่อว่าตัวเองเก่งขึ้นได้ตลอดเวลา และเชื่อว่าตัวเองสามารถเรียนรู้เรื่องใด ๆ ในโลกถ้าใส่ความพยายามลงไปมากพอ มาเยอะ ๆ เรียนรู้จากคนกลุ่มนี้เยอะ ๆ และ นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
"คนเรายิ่งล้มเหลวก็จะยิ่งเก่งขึ้น" แค่นี้ก็จะทำให้เราไม่กลัวการทำอะไรใหม่ ๆ อีกต่อไป และเราก็จะเก่งขึ้นได้ด้วยตัวเองทุกวินาที
เราไม่ต้องพยายามจะก็อปปี้ ความคิดของคนบางคนมากลายเป็นตัวเรา แค่เรียนรู้และปรับเอาวิธีคิดมาเพิ่มเติมความคิดของเราให้เหมาะสมกับตัวเราที่สุด รวมถึงค่อย ๆ ทยอยตัดความคิดที่จะทำให้ชีวิตเราแย่ลงทิ้งไปทีละอย่างสองอย่าง
ทุกคนมีข้อจำกัดในชีวิตต่างกัน เป้าหมายคือทำให้ตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น มีวิธีคิดที่ดีขึ้น โดยยังสามารถใช้ชีวิตในข้อจำกัดที่มีอยู่ได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งถ้า ความคิดดีขึ้นถึงระดับนึง เราก็อาจจะสามารถทำลายข้อจำกัดเหล่านั้นได้อีกต่างหาก
อย่าลืมนะ โลกหมุนได้เพราะทุกคนล้วนแตกต่าง
วางแผนชีวิตดูว่าจะทำยังไงให้ ความคิดดีขึ้นได้บ้าง รวมถึงมีสติตลอดเวลาว่าสิ่งที่เข้ามาในชีวิตอันไหนที่ทำให้ ความคิดเราแย่ลงบ้าง จะได้เรียนรู้ที่จะตัดทิ้งเสีย แล้วสิ้นปีมาดูกันว่าชีวิตและความคิดของเราจะดีขึ้นแค่ไหน ลองดูนะ✌🏻✌🏻
#อย่าพยายามเป็นคนอื่นด้วยการก๊อปปี้เขามา หาสิ่งที่ตัวเองถนัดและทำได้ดีอย่างเป็นธรรมชาติ
#อย่าพยายามเป็นเหมือนใคร เพราะจังหวะของลมหายใจคนเรามันต่างกัน
พยายามเป็นตัวเราเอง ให้สวยงามที่สุด...
และเชื่อเสมอว่า... คนเรามีบทบาทหน้าที่ต่างกัน.
ไม่มีใครเป็น เหมือนใครได้.
แม้จะได้นั่งเก้าอี้ตัวเดียวกันก็ตาม ...
#รัก❤️
#ขอบคุณที่อ่านจนจบมาถึงบรรทัดสุดท้าย....
#แม่หมอมุมมืด