ตรุษจีนนี้ ควรทำ และ ห้ามทำ อะไรกันบ้างนะ?

ตรุษจีนนี้ ควรทำ และ ห้ามทำ อะไรกันบ้างนะ?


วันตรุษจีนหรือวันปีใหม่จีนนั้น คนจีนและคนไทยเชื้อสายจีนจะมีข้อห้ามและข้อปฏิบัติที่ยึดถือกันมาอย่างยาวนานเพื่อให้ปฏิบัติตาม เพราะเชื่อว่าจะสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ตัวเองและครอบครัวตลอดทั้งปีนั่นเองจ้า เรามาดูกันว่าในวันตรุษจีนนี้จะมีข้อห้ามและข้อปฏิบัติอย่างไรกันบ้าง ตามมากันเลยย

 

สิ่งที่ควรทำ

 

ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษและไหว้ผีไม่มีญาติ

 

          วันซาจั๊บหรือวันไหว้ คือวันที่ชาวจีนต้องไหว้เจ้าที่ โดยในช่วงเช้าจะมีการไหว้เจ้าในบ้าน ซึ่งก็คือ ตีจูเอี๊ยะ และไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงก็จะต้องไหว้ผีไม่มีญาติ ซึ่งของไหว้นั้นจะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ และอาหารหวาน แต่จะมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้ นอกจากนี้ก็ยังต้องมีเครื่องกระป๋อง เช่น เงาะกระป๋อง ลำไยกระป๋อง เป็นต้น รวมไปถึงข้าวสาร และเกลืออีกด้วย เพื่อให้ผีไม่มีญาติได้นำออกไป อีกทั้งยังต้องจุดขี้ไต้ 2ชิ้นไว้ด้วย และที่สำคัญเมื่อไหว้เสร็จต้องจุดประทัด แล้วจากนั้นจึงเอาข้าวสารมาผสมกับเกลือแล้วนำมาโปรยเพื่อขับไล่สิ่งไม่ดีให้หมดไปนั่นเองจ้า

 

ทำพิธีรับไฉ่ซิ้งเอี้ย

          ในเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บนั้นจะมีการไหว้รับเทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี๊ย ซึ่งท่านเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและความมั่งคั่ง และที่สำคัญคนจีนยังนิยมไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี๊ยเพื่อให้คุ้มครองลูกหลานที่ไปอยู่ต่างถิ่นประสบความสำเร็จด้านการศึกษาอีกด้วย

 

ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่

          วันแรกของปีใหม่จีนหรือวันชิวอิกนั้น ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงและลูกสมอจีนไว้รอรับแขก  เมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าของบ้านก็จะรับมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล

 

ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ ติดคำอวยพรปีใหม่

          สมัยก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียนตุ๊ยเลี้ยงเอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง สำหรับท่านใดที่ไม่มีความรู้ด้านภาษาจีน ก็สามารถไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ได้ ซึ่งแหล่งใหญ่ที่รับจ้างเขียนก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ หรือ เยาวราชนั่นเอง

 

กินเจในมื้อแรก

เช้าวันชิวอิกหรือวันแรกของปีใหม่จีนนั้น คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก เพราะเชื่อว่าการกินเจมื้อแรกของปีใหม่จะทำให้ได้บุญเหมือนกับการกินเจอตลอดทั้งปี และที่สำคัญจะไม่กินโจ๊กด้วยนะ

 

รวมญาติกินเกี๊ยว

           อีกหนึ่งความสำคัญของวันตรุษจีนคือ การรวมญาติกินเกี๊ยว โดยทุกคนจะเดินทางมาร่วมกินเกี๊ยวกันในวันซาจั๊บซึ่งเป็นมื้อสุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ และเกี๊ยวจะมีลักษณะเหมือนกับเงินของจีน ฉะนั้นเกี๊ยวจึงมีความหมายว่า ให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง

 

ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส

          ในวันตรุษจีน คนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่นี้ด้วย โดยการเลือกเสื้อผ้าสีสดใสก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งสีที่คนจีนนิยมใส่ที่สุดก็คือสีแดง

 

เที่ยวฉลองเทศกาล

          ในวันปีใหม่ของจีนจะเป็นวันที่คนจีนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ที่สวยงาม จะออกเดินทางไปเป็นครอบครัวเพื่อไปไหว้ขอพรผู้ใหญ่ที่เคารพ หรือพากันออกไปท่องเที่ยวฉลองเทศกาล เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันแห่งสิริมงคลและจะงดทำบาปทั้งปวง

 

รับอั่งเปา

วันตรุษจีนถือเป็นอีกวันสำหรับเด็กๆ ที่ต่างตั้งตารอคอย เพราะเป็นวันที่จะได้รับซองแดงใส่เงินขวัญถุงจากผู้ใหญ่หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อั่งเปา โดยมารยาทก่อนจะรับซองแดงต้องอย่าลืมกล่าวคำว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ก่อนเสมอ ซึ่งคำอวยพรมีหมายความว่า ปีใหม่นี้คิดหวังสิ่งใด ขอให้สมหวัง สมปรารถนา มีแต่ความสุขมั่งคั่ง โชคดีร่ำรวยตลอดปีนั่งเอง

 

พูดแต่สิ่งดีๆ

ในวันขึ้นปีใหม่จีนนั้น คนจีนจะไม่พูดคำหยาบ จะไม่พูดถึงเรื่องผีหรือความตายและจะพูดแต่สิ่งดีๆ เพราะเชื่อว่าการพูดแต่เรื่องดีๆในวันปีใหม่นั้นจะนำความโชคดีมาให้กับตัวเองตลอดปี

 

สิ่งที่ไม่ควรทำ

 

ห้ามทำความสะอาดบ้าน

          คนจีนมีความเชื่อว่า การทำความสะอาดบ้านในวันตรุษจีนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะเชื่อว่าจะเป็นการกวาดไล่สิ่งมงคลและโชคลาภเงินทอง ออกไปด้วย ดังนั้นวันตรุษจีนจึงไม่ค่อยมีใครทำความสะอาดบ้าน แต่จะทำความสะอาดกันหนึ่งวันก่อนตรุษจีน เพื่อจะให้บ้านสะอาดรับปีใหม่ และใช้บ้านในการต้อนรับแขกที่จะมาเยี่ยมเยือนอีกด้วย

 

ห้ามซักผ้า

          คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำเกิดในวันตรุษจีน จึงมีข้อห้ามว่าไม่ให้ซักผ้าในวันตรุษจีน เพราะการซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน ฉะนั้นทุกคนในบ้านควรซักผ้าให้เรียบร้อยก่อนวันตรุษจีนด้วยนะ

 

ห้ามสระผมหรือตัดผม

          ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้น ชาวจีนจะไม่ตัดผมหรือสระผม เพราะมีความเชื่อว่าการสระผมหรือตัดผมในช่วงเทศกาลตรุษจีน จะเป็นการนำความมั่งคั่งร่ำรวยออกไปด้วย และคำว่าผมในภาษาจีนนั้นพ้อมรูปพ้องเสียงกับคำว่ามั่งคั่งอีกด้วย

 

ห้ามซื้อรองเท้าใหม่

          ในภาษาจีนคำว่ารองเท้า จะออกเสียงว่า Hai ซึ่งมีเสียงคล้ายการถอนหายใจ คนจีนจึงไม่นิยมซื้อรองเท้าในวันตรุษจีน เพราะจะเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ค่อยดีนั่นเอง

 

ห้ามร้องไห้

          คนจีนเชื่อว่าการร้องไห้ในวันปีใหม่จีนหรือวันตรุษจีนนั้น จะนำความทุกข์โศกมาสู่ครอบครัวและตัวเองตลอดปี แม้แต่เด็กเล็กๆที่ไม่ว่าจะดื้อแค่ไหน ผู้ปกครองก็จะไม่ตีเพื่อไม่ให้เด็กต้องร้องไห้ ดังนั้น ในวันมงคลต่างๆ จึงให้พูดแต่สิ่งดีๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส จะได้ทำให้ได้รับสิ่งดีๆตลอดไป

 

ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์เป็นมื้อแรก

          คนจีนมีความเชื่อว่าโจ๊กเป็นอาหารของคนยากจน ซึ่งการกินโจ๊กในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการขัดขวางไม่ให้ตัวเองร่ำรวย และทำตัวเหมือนคนจน ดังนั้นคนจีนจะไม่กินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั่นเอง และที่สำคัญในวันนี้คนจีนจะไม่กินเนื้อสัตว์ด้วย เพราะเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นเป็นมังสวิรัตินั่นเอง

 

ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะกัน

          คนจีนจะงดพูดคำหยาบคายหรือทะเลาะเบาะแว้ง รวมถึงพูดเรื่องไม่เป็นมงคลต่างๆ เพราะเชื่อว่าการพูดไม่ดี หรือสิ่งที่ไม่เป็นมงคลวันนี้ จะนำความโชคร้ายมาให้ตลอดทั้งปี รวมทั้งการไม่พูดถึงเลข 4 เนื่องจากเลข 4 ในภาษาจีนออกเสียงคล้ายกับคำว่าตาย ดังนั้นหลายๆคนจึงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดคำว่า 4

 

ห้ามเข้าห้องนอนคนอื่น

          ในวันตรุษจีนห้ามเข้าไปหาใครในห้องนอน แม้ว่าคนๆนั้นจะเจ็บป่วยอยู่ก็ตาม แต่เมื่อมีแขกมาเยี่ยมก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก เพราะคนจีนเชื่อว่า การเข้าไปหาใครในห้องนอนนั้นถือว่าเป็นโชคร้าย

 

ห้ามใส่ชุดขาวดำ

          เสื้อผ้าสีขาวดำนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความตาย ซึ่งการใส่เสื้อผ้าสีเหล่านี้จะสื่อถึงลางร้าย ดังนั้น ในวันมงคลต่างๆ คนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่าสีแดงเป็นสีที่จะนำความโชคดีมาให้

 

ห้ามให้ยืมเงิน

          คนจีนมีความเชื่อว่า การให้ยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด รวมไปถึงหากใครติดเงินใครไว้ก็ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อกันว่า คนคนนั้นจะมีหนี้สินตลอดปีไม่จบไม่สิ้นนั่นเอง

 

ห้ามทำของแตก

          คนจีนเชื่อกันว่า การทำสิ่งของแตกในวันมงคล เช่น ทำแก้วแตก จานแตกหรือกระจกแตกนั้น จะหมายถึง ครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว ฉะนั้นในวันตรุษจีนจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้สิ่งของในบ้านแตก แต่หากทำของแตกโดยไม่ตั้งใจก็มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di kai hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น

 

ห้ามใช้ของมีคม

          ในวันตรุษจีนนั้นคนจีนจะไม่ใช้สิ่งของมีคม เช่น มีด กรรไกร และอย่างอื่นที่สามารถตัดสิ่งอื่นได้ เพราะเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ จะเป็นการตัดโชคดีไปด้วยนั่นเองจ้า