การพยากรณ์โดย ไพ่ยิปซี+หลักทักษาปกรณ์+เลขบัตรประชาชน ของผมเป็นอย่างไร และจะมีความแม่นยำขนาดไหน
การพยากรณ์โดย ไพ่ยิปซี+หลักทักษาปกรณ์+เลขบัตรประชาชน ของผมเป็นอย่างไร และจะมีความแม่นยำขนาดไหน
- ไพ่ยิปซี หรือ ไพ่ทาโรต์ หลายท่านคงทราบดีและเคยสัมผัสกับความมหัศจรรย์จากลวดลายภาพวาดบนหน้าไพ่มาแล้ว เชื่อไหมว่าแม้แต่คนที่ไม่ได้เป็นนักพยากรณ์มาใช้ไพ่เพื่อทำนาย ความแม่นยำบนหน้าไพ่ก็ยังสร้างความอัศจรรย์ใจให้คุณได้ไม่แตกต่างกัน นั่นหมายความว่า ไพ่มีพลังอำนาจในตัวของเขาเองอย่างเต็มที่ในการบ่งบอกถึง อดีต ปัจจุบัน และ อนาคตอยู่แล้ว เพียงแค่ที่จะแตกต่างกันคือ ทักษะในการให้คำพยากรณ์ที่แม่นยำ คม ชัด ลึก ขยายความเป็นเรื่องราวได้ชวนฟังขนาดไหน ฟังแล้วเข้าใจหรือไม่ ทักษะนี้ยังหมายรวมถึงการให้คำพยากรณ์ที่แม่นยำด้วย เนื่องจากผู้ที่เป็นนักพยากรณ์ยิ่งเป็นมานานก็จะผ่านประสบการณ์การตีความบนหน้าไพ่มานับครั้งไม่ถ้วนจนมั่นใจว่า ถ้าไพ่ใบนี้ปรากฏขึ้นมา จิตสัมผัสได้ถึงเรื่องราวใดบ้าง และเมื่อนำไพ่หลายๆใบมาเรียงร้อยต่อกันจะสร้างเป็นสตอรี่ใดออกมาให้เราได้ดื่มด่ำกับท่วงทำนองของความแม่นยำนั้น
- ทักษาปกรณ์จะมีตำแหน่งต่างๆของการวางไพ่ คือ บริวาร อายุ เดช ศรี มูลละ อุตสาหะ มนตรี และ กาลี ตำแหน่งต่างๆก็จะมีหน้าที่บ่งบอกเรื่องราวต่างๆตามตำแหน่งของเขา
- ไพ่ที่วางอยู่ในตำแหน่งนั้นจะบอกเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องนั้น เช่น ไพ่วางอยู่ในตำแหน่ง ศรี ก็จะบอกถึงเรื่อง โชคลาภ บารมี ทรัพย์สิน เงินทอง ความเป็นอยู่ดีร้าย บ่งบอกถึงตัวบุคคลว่ามีศีลธรรมประจำใจไหม บุคลิกภาพ ความนิยมยกย่อง
- ส่วนไพ่ที่อยู่ในตำแหน่งตรงข้าม จะมีหน้าที่มาขยายความให้เรื่องราวมีสตอรี่มากขึ้น เช่น ไพ่ในตำแหน่ง ศรี บอกว่ามีโชค ไพ่ฝั่งตรงข้ามจะมาขยายความว่า โชคลาภนั้นจะมาจากที่ใด และ จะมาอย่างไร
- เลขบัตรประชาชน คือ ลิขิตแห่งฟ้าชะตาแห่งดิน เกิดจนตายมิอาจเปลี่ยนแปลง เลข 5 ตัวท้ายมีความสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะตัวแรกจากขวามือสุดและไล่ลำดับลงมาเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น อาจารย์มีเลขที่ลงท้ายด้วยเลข 1 บ่งบอกว่า เป็นนักพูด นักคิด นักแก้ไขปัญหา สามารถทำงานได้ทุกแขนงไม่ว่าจะได้ร่ำเรียนมาหรือไม่ เป็นนักวางแผนงานได้ดี เคยมีซินแสคนหนึ่งบอกว่าอาจารย์จะได้เป็นนักพยากรณ์ช่วยเหลือคนอื่น ตอนนั้นอาจารย์ไม่เชื่อ คิดในใจว่าเราไม่มีความรู้ในเรื่องนี้เลย แถมไม่ได้ชื่นชมกับอาชีพนี้เป็นพิเศษด้วย แล้วจะทำงานเป็นหมอดูได้อย่างไร สรุปเมื่อช่วงชีวิตมาถึงจังหวะของมัน อาจารย์ได้สมัครเป็นนักพยากรณ์ในเวปไซค์หนึ่งเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นอยากลองทำเล่นๆไม่ได้คิดจริงจังมาก แต่เรียนมาเลยนะครับ เรียนกับอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน เรียนเพราะอยากรู้ว่าเรื่องแบบนี้มีมันมีจริงไหม เพราะเราเป็นทนายความจะเชื่ออะไรที่เป็นเหตุเป็นผลและพิสูจน์ได้มากกว่า เชื่อไหมครับอาจารย์จำได้แม่นยำเลยว่าไม่เกิน 3 เดือน อาจารย์ได้รับเชิญไปออกรายการทางเคเบิ้ลทีวี และ ออกรายการแบบนั้นอยู่หลายรายการนานต่อเนื่องหลายปี จนกระทั้งวันหนึ่งอาจารย์ตัดสินใจออกจากวงการออกมาพักหนึ่งเลยหละ เนื่องจากเราไม่สามารถพยากรณ์ดวงชะตาให้ดาราได้ตามที่ทางรายการขอมา ด้วยเพราะเราเป็นทนายความ เราทราบดีว่าการพูดสิ่งเหล่านี้ออกสื่ออาจทำให้เราดังได้ในช่วงข้ามคืน แต่ในขณะเดียวกันแม้เรื่องที่พูดจะเป็นเรื่องจริงศาสตร์แห่งการพยากรณ์ยืนยันขึ้นมาตามนั้นจริงๆก็ตาม แต่มันก็จะสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ที่เราพูดถึงเขาได้ในชั่วข้ามคืนเช่นกัน อาจารย์จึงตัดสินใจถอยออกจากวงการในทีวีทั้งที่ตอนนั้นออกอยู่ไม่น้อยกว่า 6 รายการเพราะอาจารย์รู้ว่าอยู่ไปก็ไม่ดัง รวมถึงอึดอัดใจด้วยเวลาที่พิธีกรยิงคำถามประเภทนี้มาแล้วอาจารย์ต้องปฏิเสธการตอบคำถาม แต่อาจารย์ก็ยังทำงานด้านพยากรณ์อยู่ตามปกติแต่ไม่ค่อยออกสื่อ จะมีกลุ่มลูกค้าจำนวนมากที่รู้จักเราแนะนำกันแบบปากต่อปากมาเรื่อยๆจนถึงวันนี้
- ถ้าคุณสนใจอยากพิสูจน์ ติดต่อเข้ามาได้นะครับ อาจารย์เป็นคนที่ชอบการพยากรณ์แบบ มีเรื่องราว มีสตอรี่ มีการขยายความให้ชัดเจน ไม่ชอบตอบแบบสั้นๆเกินไปเพราะมันจะไม่ค่อยได้ใจความ
แฟนเพจ : ทนายพยากรณ์
