7 เทพเจ้าแห่งโชคลาภของญี่ปุ่น

 

                ไม่ว่าที่ไหนๆ ต่างก็มีเทพเจ้าที่เคารพนับถือกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่แดนปลาดิบอย่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีเทพเจ้าที่คนญี่ปุ่นยกให้เป็นที่สุดอยู่ 7 องค์ หรือที่เรียกกันว่า Shichi-Fukujin (七福神) ซึ่งประกอบไปด้วยเทพชาย 6 องค์ และเทพหญิงอีก 1 องค์

 

 

ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.pinterest.com/pin/346917977538224671/?lp=true

 

                เมื่อ พ.ศ. 2166 เป็นเพราะว่าครั้งหนึ่งหลวงพ่อเท็นเคอิได้แสดงปรัชญาแก่โชกุนโตกุกาวา อิเอยาสุ (Tokugawa Ieyasu : 徳川家康) ไว้ว่า “หลักแห่งความผาสุกของมนุษย์โดยทั่วไปนั้นควรจะประกอบด้วย 7 สิ่งได้แก่ ความมีอายุยืน, ความมีโชคดี, ความนิยม, ความไม่มีอคติ, ความเอื้อเฟื้อ, ความมีเกียรติ และความไม่อาฆาตพยาบาท ซึ่งโชกุนเลื่อมใสในคำสอนของหลวงพ่อเท็นเคอิมาก จึงกลายเป็นที่แพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่นนับตั้งแต่สมัยนั้น ใครๆต่างก็พากันบูชาเทพทั้ง 7 องค์มาจนถึงทุกวันนี้

 

                เทพเจ้าทั้ง 7 ประกอบไปด้วย

 

Daikoku (大黒天)

 

ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.irasutoya.com/2014/12/blog-post_842.html

 

                เทพไดโกกุ เป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งและร่ำรวย มีลักษณะเป็นชายอ้วนลงพุง มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสสวมหมวกแบนๆ พระหัตถ์ข้างหนึ่งถือค้อนตะลุมพุกและพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งจะแบกถุงใส่สมบัติใบใหญ่ว่ากันว่าถ้าท่านสั่นตะลุมพุกเมื่อไหร่เงินทองไหลมาเทมาเมื่อนั้น

 

Ebisu (恵比寿)

ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.irasutoya.com/2014/06/blog-post_9149.html

 

                เทพเอบิสุ เป็นเทพเจ้าแห่งการประมงและเป็นเทพที่นิยมบูชากันในตลาดปลา มักบูชากันมากในแถบโอซาก้า เนื่องจากเป็นแหล่งอุตสาหกรรมประมงของญี่ปุ่นมาแต่โบราณ เทพเอบิสุจะทรงคันเบ็ดและปรากฏพร้อมกับปลากระพงยักษ์ หรือคนญี่ปุ่นเรียกกว่าปลาไท (Tai : 鯛) ด้วยเหตุนี้ชาวประมงญี่ปุ่นเมื่อจะออกทะเลแต่ละครั้งมักบูชาเทพองค์นี้เสมอ

 

Benzaiten (弁才天)

 

 

ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.pinterest.com/pin/620089442415091794/?lp=true

 

                เทวีเบนไซเท็นคือ พระแม่สรัสวตีของศาสนาฮินดู แต่ท่านเข้าไปถึงญี่ปุ่นโดยผ่านศาสนาพุทธนิกายมหายานในช่วงหลังพุทธศตวรรษที่ 13 รูปลักษณ์ของท่านจะปรากฏออกมาเป็นสตรีที่ถือพิณญี่ปุ่น หรือบิวะ (琵琶) ท่านมีหน้าที่รักษาพระไตรปิฎกรวมทั้งปกป้องผู้ที่ครอบครองพระไตรปิฎก แต่ในเวลาต่อมานิกายชินกอนและเทนไดได้เปลี่ยนแปลงคติความเชื่อเกี่ยวกับเบนไซเท็น โดยให้เป็นเทพผู้ครองน้ำร่วมกับเทพแห่งผืนดินริมฝั่งแม่น้ำ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนญี่ปุ่นนับถือพระนางเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์และโชคลาภ

 

Fukurokuju (福禄寿)

ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.irasutoya.com/2014/12/blog-post_374.html

 

                เทพฟุคุโระคุจูคือ เทพผู้ประทานพรให้มีอายุยืนยาว ซึ่งเทพองค์นี้เกิดจาก Fuku (เทพเจ้าแห่งความสุข), Roku (เทพเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติ) และ Ju (เทพเจ้าแห่งความมีอายุยืน) เทพองค์นี้มักปรากฏเป็นลักษณะของผู้คงแก่เรียนมีความเคร่งขรึมสำรวม และจุดเด่นอยู่ที่ศีรษะที่สูงยาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอายุยืน,ความฉลาด และประสบการณ์ มักมีสัตว์มงคล เช่น นกกระเรียน, กวาง หรือเต่าอยู่ใกล้ๆ ด้วย ซึ่งลักษณะของเทพองค์นี้ก็คือ เทพ “ซิ่ว” ที่อยู่ในชุด “ฮก ลก ซิ่ว” ของจีนนั่นเอง

 

Jurojin (寿老人)

 

                เทพโรจิน เป็นลูกของเทพฟุคุโระคุจู โดยมีลักษณะเป็นชายร่างเล็กเตี้ยแต่ศีรษะใหญ่ และมักถือไม้เท้ายาวที่มีสมุดเล่มเล็กๆ ห้อยไว้ด้วย ซึ่งสมุดเล่มนี้ท่านเอาไว้คอยจดอายุไขของบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ข้างกายท่านก็จะมีกวางอยู่ด้วย นอกจากนี้ท่านยังโปรดสุรามากโดยเฉพาะเหล้าสาเก ซึ่งท่านมีเป็นผู้ที่ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเมา จึงเป็นที่นับถือของคนที่มีอาชีพต้มเหล้า ผลิตเหล้า

 

Bishamon (毘沙門)

 

 

ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.pinterest.com/pin/522347256775286233/

 

                มีความเชื่อกันว่าเทพบิชาม่อน แต่เดิมก็คือท้าวเวสสุวัณของไทย ซึ่งพระองค์ทรงเป็นโลกบาลผู้ครองทิศเหนือ รวมทั้งเป็นเทพผู้คุ้มกฎ ปกป้องผู้บูชาจากอันตรายและภูตผีปีศาจ นอกจากนี้ท่านยังเป็นเทพแห่งทรัพย์สมบัติอีกด้วย พระองค์จะสวมเสื้อเกราะแบบนักรบมีพระพักตร์สีฟ้าและถืออาวุธต่างๆ แต่ที่เห็นชัดคือหอกและเจดีย์ นอกจากนี้เทพบิชาม่อนเป็นตัวแทนของคุณงามความดีและความสงบสุขอีกด้วย

 

Hotei (布袋)

 

 

ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.irasutoya.com/2014/12/blog-post_149.html

 

                เทพโฮเทอิ เป็นเทพเจ้าแห่งความสุขและความรู้จักพอ นอกจากนั้นคนญี่ปุ่นยังเชื่อว่าท่านช่วยให้ทำมาค้าขายดีอีกด้วย จึงมักตั้งเอาไว้ที่บริเวณทางเข้าร้านค้า ลักษณะของเทพโฮเทอิคือ รูปร่างอ้วน แก้มยุ้ย ใบหน้ายิ้มแป้นมือถือพัด มักจะสะพายย่ามใบใหญ่ไว้ ย่ามใบนี้เล่ากันว่าใส่ของไปมากแค่ไหนก็ไม่มีวันเต็ม