ไขข้อสงสัย...เหตุใดราศีฝั่งตะวันออกกับตะวันตก จึงไม่ตรงกัน

หากใครเคยทำนายทายทักตามราศีบ่อยครั้ง อาจมีข้อสงสัยอยู่ในใจว่าทำไมการแบ่งราศีของฝั่งตะวันออกและตะวันตกจึงแตกต่างกัน ทำให้บางท่านอยู่ในราศีที่ต่างกันได้ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันค่ะ

            โหราศาสตร์ในยุคโบราณ คำนวณวสันตฤดู หรือฤดูใบไม้ผลิที่ราศีเมษ เนื่องจากพระอาทิตย์ได้สถิตอยู่ที่หมู่ดาวแกะ จึงยกให้ราศีเมษเป็นจุดเริ่มต้น และมีความหมายถึงความเป็นผู้นำ การเริ่มต้นสิ่งใหม่หลังจากผ่านฤดูหนาวอันหนาวเหน็บที่ยาวนาน จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของจักรราศี ซึ่งเรียกว่า “วันวสันตวิษุวัต” ซึ่งคำเรียกวันนี้มีรากศัพท์มาจากคำว่า วสันต์ หรือฤดูใบไม้พลิ เนื่องจากตรงกับฤดูใบไม้พลิของซีกโลกเหนือพอดี รวมกับ วิษุวัต ซึ่งเป็นศัพท์ดาราศาสตร์ หมายถึงช่วงที่ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งตรงได้ฉากกับเส้นศูนย์สูตรของโลกพอดี เช่น ในปี 2561 นี้ วันวสันตวิษุวัต ตรงกับวันที่ 20 มีนาคม เวลา 16.15 ที่เมืองกรินิช      

            ต่อมาทางตะวันตกได้มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์มากขึ้น ได้ค้นพบว่าขณะที่โลกเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์นั้น ขณะเดียวกันก็จะหมุนรอบตัวเองโดยมีวงโคจรเป็นรูปกรวยไปด้วย จึงเกิดความคิดว่าเมื่อโลกเคลื่อนที่รอบตัวเองทุกปี ราศีในทางโหราศาสตร์ก็ต้องเคลื่อนตัวเองไปทุกปีด้วยเช่นกัน เพราะยึดถือตามดวงดาวจริงบนท้องฟ้า โหราศาสตร์ทางตะวันตกจึงแยกตัวออกเป็นระบบ fixed zodiac หรือเรียกว่าสายนะ หรือโหราศาสตร์สากล

            เมื่อเกิดการเคลื่อนตัวของโลกดังที่กล่าวมาข้างต้น จึงทำให้ราศีเมษครอบคลุมระหว่างวันที่ 21 มีนาคม ถึง 20 เมษายน ตามวันวสันตวิษุวัตที่คำนวณได้จริง และเกิดความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันระหว่างโหราศาสตร์สายเก่าและสายใหม่อยู่เนืองๆ ว่าโหราศาสตร์สายเก่าไม่ได้ใช้การทำนายโดยยึดตามดวงดาวที่ปรากฏจริงบนท้องฟ้าจะแม่นได้อย่างไร

            ขณะที่โหราศาสตร์สายเดิมนั้นมีชื่อว่า Sidereal Zodiac หรือสายนิรายนะ ซึ่งปัจจุบันถูกเรียกว่า “สุริยาสตร์" ถือว่าแม้โลกจะเคลื่อนที่ไปอย่างไรก็ตาม แต่โหราศาสตร์สายนี้ยึดถือค่าการเคลื่อนที่ไปของราศี (หรือที่เรียกว่าอยนางศะ) มาหาค่ามุมสัมพันธ์ระหว่างดวงดาวต่างๆ กับดวงอาทิตย์ ซึ่งไม่ว่าแกนโลกจะเคลื่อนจากตำแหน่งเดิมแต่แนวโคจรของโลกยังอยู่ในวงโคจรเดิม จึงยังมีมุมสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์และดวงดาวต่างๆ เท่าเดิม จึงไม่เป็นสาเหตุให้ราศีเปลี่ยนแปลง เป็นสาเหตุให้ยังยึดถือว่าราศีเมษ ครอบคลุมในช่วงวันที่ 15 เมษายน ถึง 15 พฤษภาคม มาเช่นแต่โบราณ

            ด้วยสาเหตุนี้ราศีในฝั่งตะวันตกและตะวันออก หรือทางโหรฝรั่งกับของไทยจึงครอบคลุมช่วงวันที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนเราจะอ่านคำนาย ควรจะต้องรู้ก่อนว่า หมอดูหรือนักพยากรณ์แต่ละท่าน ใช้หลักโหราศาสตร์ฝั่งไหน เพื่อให้ได้คำทำนายที่ตรงที่สุดค่ะ