เมื่อเสียใจ
วันนี้นั่งนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เสียใจหนักๆ...ถ้าให้นับในวัย 51 ปีคงต้องบอกความเสียใจทั้งหลายว่า..หนักกว่าเธอก็เจอมาแล้ว...
ก็เลยต้องนึกย้อนถอยไปหลายสิบปีหน่อย...เรื่องการเรียนของฉันนี่ไง ...เสียใจสุดๆ...ในขณะที่พี่สาวสองคนคนหนึ่งเรียนจุฬาฯ อีกคนเรียนเตรียมอุดมฯ ฉันในฐานะลูกสาวคนที่ 3 ก็แบกภาระที่ว่าฉันต้องเข้าไปเรียนเตรียมอุดมฯ ได้เหมือนพี่ๆ กับความรู้สึกที่ว่าลูกพ่อแม่เดียวกันก็ต้องเหมือนกันนิ....แต่มันไม่ใช่สิ...ฉันทำไม่ได้ฉันผิดหวังฉันเสียใจฉันว่าฉันก็ฉลาดไม่แพ้พี่ๆแล้วทำไมไม่ได้เข้าไปในรั้วเตรียมอุดมเหมือนกัน...
ฉันไปหาย่าที่บางพลัด...นอนตักย่าร้องไห้ไป 3วันติดๆกันด้วยใจที่บอบช้ำว่าฉันโง่เง่าฉลาดไม่เท่าพี่ๆ...ย่าเลยขอให้ฉันอยู่กับย่าแล้วเข้าเรียนพานิชเอกชนแถวๆบ้านย่าไปย่าส่งเสียให้เอง...จากความรู้สึกส่วนตัวที่ค่อนข้างดูหมิ่นเด็กพานิชดูถูกนักเรียนเอกชน...แต่ฉันก็ต้องทนเข้าไปเรียน....
จากการที่ฉันได้เข้าเรียนที่นั้นการปรับตัวของฉันยืดหยุ่นกับผองเพื่อนเคารพนบนอบครูอาจารย์ทำให้ฉันกลายเป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างเพื่อนๆในชั้นเรียนกับฝ่ายปกครองปีหนึ่งผ่านไป...
จนขึ้นเรียนปีสองฉันเริ่มมี lycense ของตัวเองที่ชัดเจน...รอบนี้พ่อมาตามให้ไปสอบเข้าพานิชรัฐบาล...ฉันก็ไปนะแต่สอบไม่ได้เหมือนเดิมแหละ...แต่รอบนี้ฉันดีใจนะที่สอบไม่ได้เพราะฉันไม่ต้องเปลี่ยนที่เรียนเปลี่ยนสังคม...
จนถึงวันนี้ฉันมีลูกเป็นของตัวเอง ....ฉันเพียงแค่ชี้ทางให้เค้าหลายๆทางสุดท้ายให้เค้าเลือกเองว่าจะเดินทางไหนให้อยู่รอดได้...เอาใจช่วยลูกชายวัย 13ปีของฉันด้วยนะคะ ตอนนี้ดูท่าเค้าจะหมกมุ่นกับการเล่นเกมส์ การทำยูทุป ...ก็หวังว่าสิ่งที่เค้ามีความสุขจะนำพาชีวิตเค้าไปในทิศทางที่เค้ามีความสุขวันนั้นฉันตายตาหลับ