The Justice เสียงเพรียกหาความยุติธรรมของเจ้าแมวดำในค่ำคืนพายุฝนฟ้าคะนอง



   

    เพื่อออรรถรสในการเสพผลงานและเกิดอารมณ์ร่วมไปด้วยกัน ก่อนอื่นผมขอแนะนำให้คุณผู้อ่านปล่อยใจให้รู้สึกผ่อนคลาย พร้อมกับจินตนาการประหนึ่งว่าตนเองเป็นเจ้าแมวดำที่ปรากฏอยู่ในเรื่อง หรือจะลองพิจารณาจากภาพถ่ายที่แปะหลาอยู่ด้านบนก็ได้ ตามแต่ที่คุณรู้สึกสะดวกใจนั่นล่ะครับ เมื่อเข้าใจตรงกันแล้วเราไปเริ่มต้นกันเลยดีกว่าครับ


เสียงเพรียกหาความยุติธรรมของเจ้าแมวดำในค่ำคืนพายุฝนฟ้าคะนอง


    ในค่ำคืนหนึ่งของวันที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งผ่านจอทีวีว่า ช่วงดึกวันนี้จะเกิดลมพายุฝนฟ้าคะนองระลอกใหญ่ เจ้าแมวดำพเนจรผู้ไม่เคยรู้จักกรมอุตินิยมวิทยา และไม่แม้แต่จะแยแสว่าการพยากรณ์สภาพอากาศคืออะไร มันยังคงใช้ชีวิตเป็นปรกติเหมือนเช่นทุกวัน หาได้ยินดียินร้ายต่อพายุฝนที่กำลังจะโหมกระหน่ำในไม่ช้าอยู่มะรอมมะร่อ


    เผอิญในค่ำคืนนั้นเจ้าแมวดำเกิดอาการท้องร้องไวไปหน่อย มันจึงออกหากินเร็วกว่าทุกวัน ในขณะที่มันกำลังเยื้องย่างไปยังเส้นทางของแหล่งอาหารตามที่คุ้นเคย จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังอยู่ไม่ไกลจากตำแหน่งของตัวมัน ว่าแล้วเจ้าแมวดำจึงรีบย่องไปแอบอยู่หลังกระถางต้นไม้ใหญ่ที่ล้มระเนนระนาดลงด้วยอิทธิพลของสภาพอากาศ และซุ่มมองอยู่ห่างๆ ด้วยความสงสัยระคนหวาดระแวง


    ทันใดนั้นเองเสียงฝีเท้านั่นก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้าของกระถางต้นไม้ใหญ่ มองเห็นได้เลือนราง ซึ่งปรากฏเป็นร่างของชายวัยกลางคน ลักษณะสมส่วน ไม่อ้วนและไม่ผอมจนเกินไป ถึงไม่สูงใหญ่แต่ก็ไม่ได้เตี้ยม่อต้อ ร่างของชายคนดังกล่าวดูเหมือนว่ากำลังง่วนอยู่กับการถ่ายภาพของสิ่งที่ตนพบเห็น พร้อมกับพูดคุยโทรศัพท์เสียงดังลั่นภายหลังจากที่ถ่ายภาพเสร็จสิ้นแล้ว


    เสียงของชายคนนั้นพอจับใจความได้ว่า “ไอ้แมวดำสารเลวมันทำกระถางต้นไม้ตรงหลังห้องทำงานของท่านล้มระเกะระกะหมดเลย จะให้ผมจัดการกับมันอย่างไรดี เอ่อ ไม่แน่ใจว่าใช่ตัวเดียวกันกับที่ขโมยกินหมูแดดเดียวที่ท่านฝากให้แม่บ้านตากพึ่งแดดไว้เมื่อวานซืนด้วยรึเปล่า?”


    เมื่อสิ้นเสียงของบทสนทนาทางโทรศัพท์ ร่างของชายคนดังกล่าวก็ค่อยๆ คืบคลานเข้าไปหาเจ้าแมวดำด้วยท่าทีที่ไม่เป็นมิตร และแล้วก่อนที่ร่างของเขาจะประชิดถึงตัวเจ้าแมวดำไปมากกว่านี้ มันจึงรีบตะโกนเสียงดังลั่นออกไปว่า...


    เปล่านะคะ!! หนูไม่ได้ทำ โปรดอย่าเข้าใจหนูผิดค่ะ พอดีหนูแค่เดินผ่านมาก็เท่านั้นเอง


    สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าพี่ชายนั้นไซร้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ภายใต้ความเป็นไปของสภาพลมฟ้าอากาศ หาได้เกี่ยวข้องกับหนูแต่ประการใด


    แน่นอนล่ะว่าเมื่อหนูอยู่ร่วมในเหตุการณ์ ณ สถานที่เกิดเหตุ หนูย่อมถูกตั้งข้อสังเกตและถูกเพ่งเล็งเป็นธรรมดาอยู่แล้ว อันนั้นมันพอเข้าใจกันได้ค่า แต่หากว่าการปรากฏตัวของหนู มันทำให้หนูตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่กำลังจะถูกเปลี่ยนสถานะแห่งชีวิตให้กลายเป็นผู้ต้องหาในไม่ช้า หนูเห็นว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับหนูเลยสักนิด


    พี่ชายจะมั่นอกมั่นใจได้เยี่ยงไรว่าเหตุการณ์ที่ประจักษ์ต่อสายตาของพี่นั้น มันเป็นสิ่งที่กระทำการโดยหนู กล้องวงจรปิดกระนั้นฤา หรือพี่ท่านมีพยานปากเอกคนใดกันเล่าที่จะสามารถยืนกรานได้จริง?


    แล้วหนูจะเชื่อได้เยี่ยงไรล่ะเจ้าค่ะว่าพี่ชายมีหัวจิตหัวใจยุติธรรมหนักแน่น ปราศจากซึ่งอคติและชิงชัง พร้อมมีดุลยพินิจมากเพียงพอต่อการพิพากษาตัดสิน เพราะเพียงแค่หนูยืนอยู่ด้านหลังซากปรักหักพัง พี่ชายก็ลงดาบหนูไปก่อนเสียแล้วว่ามีส่วนสำคัญต่อการพังพินาศของมัน


    ใช่น่ะสิเจ้าค่ะ เมื่อภาพมันฟ้อง มันก็ย่อมผูกมัดรัดตัวหนูอยู่ร่ำไป แม้นว่ามันไม่ใช่ตราบาปที่หนูก่อขึ้น แต่การลงทัณฑ์ด้วยสายตาและอคติเอนเอียงภายในจิตใจ มันก็ชี้ชัดอยู่แล้วผ่านอากัปกิริยาของคุณพี่ 


    ไหนจะโฉมหน้าอันแสนอัปลักษณ์ และทีท่าไม่น่าไว้วางใจประดุจเจ้าหัวขโมยมือหนึ่งของหนู ซึ่งเสียงอื้ออึงเซ็งแซ่ของประชาชีต่างพากันกล่าวขวัญถึง มันก็ยิ่งทำให้หนูรู้สึกราวกับว่าต้องตกนรกทั้งเป็น


    โอ้ พระผู้เป็นเจ้าทุกพระองค์ โอ้ ศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ทุกท่าน โปรดเมตตากรุณาต่อข้าด้วยเถิด โปรดช่วยชี้แจงแถลงไขแก่ชายผู้นี้ เพื่อให้ความบริสุทธิ์ของข้าประจักษ์ชัดต่อหัวจิตหัวใจของเขาเสียที 


    หากพระองค์และพวกท่านดำรงอยู่จริงจะด้วยสภาวะใดก็ตามแต่ ขอให้ชายผู้นี้หลุดพ้นไปจากความโฉดเขลาเบาปัญญา ก้าวข้ามม่านอคติที่บดบังสายตาจนไม่อาจแลเห็นความสัตย์จริง และหวังว่าเป็นอย่างยิ่งว่าความอยุติธรรมที่ชโลมล่อเลี้ยงหัวใจของเขาจะสิ้นสลายในบัดดล มิเช่นนั้นแล้วข้าคงต้องทนทุกข์ทรมานกับคำพิพากษาที่คอยตามหลอนหลอกตัวข้าอยู่ร่ำไป จวบจนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต


    หนูขอยืนยันนะคะว่าหนูบริสุทธิ์!!


    เมื่อเจ้าแมวดำเอื้อนเอ่ยความในใจออกไปจนหมดสิ้น มันก็วิ่งหนีหายลับไปในความมืดมิดแห่งรัตติกาล หยาดฝนเม็ดโตโหมกระหน่ำลงมาจากฟากฟ้า เสียงฟ้าร้องดังลั่นสนั่นหวั่นไหวสลับกันไปกับแสงฟ้าแลบ 

   

    ------------


    เรื่องราวที่ผมหยิบยกมาเล่าให้ฟังเมื่อครู่นี้มุ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความยุติธรรม ซึ่งจัดได้ว่าเป็นคุณธรรมหลักประการหนึ่งที่ช่วยดำรงรักษาโลกใบนี้เอาไว้ให้ยังคงมีความงดงามและน่าอยู่ เพราะหากว่าโลกของเรานั้นไซร้ปราศจากซึ่งความยุติธรรมแล้ว ย่อมเป็นเรื่องยากที่เราจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างเป็นปรกติสุข เนื่องด้วยต้องคอยหวาดระแวงกันอยู่เสมอว่าเรื่องเลวร้ายต่างต่างนานาจะเกิดกับตัวเองขึ้นเมื่อไหร่ และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ไม่อาจเรียกร้องหาความยุติธรรมจากใครได้เลย ฉะนั้น การก้มหน้ายอมรับชะตากรรมจึงเปรียบเสมือนกับฝันร้ายที่หนีไม่พ้น ประกอบกับสังคมโลกในยุคปัจจุบันก็ชวนให้เราต่างรู้สึกสิ้นหวังกันอยู่ไม่น้อย ดังจะเห็นได้จากการที่ความยุติธรรมมักแปรผันไปตามอำนาจบารมีและอิทธิพลของเงินตรา ด้วยเหตุนี้ความยุติธรรมจึงสำคัญสำหรับโลกใบนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


    ในไพ่ Tarot นั้น มีไพ่ใบหนึ่งที่เป็นตัวแทนของความยุติธรรม นั่นก็คือ ไพ่ The Justice ซึ่งจัดเป็นไพ่หลัก 1 ใน 22 ใบ ของไพ่ Major Arcana ความหมายโดยรวมของไพ่ใบนี้เป็นการพูดถึงความซื่อสัตย์สุจริต ความบริสุทธิ์และเที่ยงธรรม ความถูกต้องตามศีลธรรมบนพื้นฐานของหลักคุณธรรมและจริยธรรม ความมีใจเป็นกลางที่ไม่เอนเอียงไปตามอคติ ความสมเหตุสมผลตามข้อกฎหมาย กฎระเบียบทางสังคม หรือแม้แต่ข้อบังคับของแต่ละศาสนา ตลอดจนความเป็นธรรม นั่นเอง


    สำหรับข้อสังเกตบางประการที่เกิดขึ้นเมื่อปรากฏ ไพ่ The Justice ในการทำนาย นั่นหมายความว่าเจ้าชะตาควรใช้หลักเหตุผลในการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบต่อสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ ทั้งนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจกระทำการใดๆ ก็ขอให้พึงระลึกเอาไว้ว่าทุกสิ่งอย่างย่อมมีผลตามมาเสมอ เพราะสิ่งที่คุณกระทำลงไปนั้นย่อมส่งผลต่ออนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น การใคร่ครวญและไตร่ตรองอย่างพิถีพิถันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับคุณในช่วงเวลาดังกล่าว


    นอกจากนี้ การปรากฏขึ้นของ ไพ่ The Justice ยังตีความได้ถึงการทำนิติกรรมและเอกสารสัญญาที่มีผลผูกพันในทางกฎหมาย หรือการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีความและข้อกฎหมายต่างๆ อีกทั้งไพ่ใบนี้ยังหมายถึงบุคคลที่มีอาชีพทางด้านกฎหมาย เช่น ทนายความ อัยการ ผู้พิพากษา หรือแม้แต่ผู้ที่ทำงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ตำรวจ และทหาร ก็มักจะได้ไพ่ใบนี้ในพื้นดวงเช่นเดียวกัน


    อีกกรณีหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ไพ่ The Justice ก็คือ ไพ่ใบนี้เป็นตัวแทนของคนที่ประสบความสำเร็จด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เป็นดวงของคนที่ต้องพึ่งพาความรู้ความสามารถส่วนตัวเป็นสำคัญ เนื่องจากเป็นคนหัวแข็ง ทิฐิมานะสูง มีจุดยืนที่แข็งแกร่ง ไม่โอนอ่อนผ่อนปรน และไม่ค่อยจะยอมก้มหัวให้ใคร จึงทำให้บางทีขาดแรงสนับสนุนจากผู้ใหญ่และคนรอบข้างไปบ้าง แต่ด้วยเป็นคนหนักเอาเบาสู้ มีความมุ่งมั่นทุ่มเท ทำอะไรจริงจัง และตรงไปตรงมา ท้ายที่สุดชีวิตจึงก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยยากมากสักหน่อยก็ตามที ทั้งนี้ ขอให้คุณพึงระลึกไว้เถิดว่าค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน หาใช่ลมปากที่คอยประจบประแจงจนได้ดีแต่อย่างใด


    สุดท้ายนี้ก็หวังว่าคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกคนจะพอเห็นภาพของ ไพ่ The Justice กันมากยิ่งขึ้น พร้อมกับได้ทราบถึงสภาวะที่ปรากฏอยู่ในไพ่ใบนี้ ก็หวังว่าความยุติธรรมจะเบ่งบานในจิตใจของทุกคน และสามารถดำรงอยู่ได้ในฐานะของคุณธรรมประการสำคัญที่ช่วยค้ำจุนโลกใบนี้ให้พร้อมต่อกรกับความอยุติธรรมและสิ่งเลวร้ายนานัปการ


    ไหนๆ ก็เขียนเรื่องที่มีแมวเป็นตัวละครเอกด้วยแล้ว ถ้างั้นผมขอตัวไปรับฟังเพลงผีแมว ของคุณหมู พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ก่อนนะครับ จู่ๆ ก็เกิดนึกถึงขึ้นมาซะดื้อๆ ขอให้ผู้อ่านมีความสุขกับบทความ และบทเพลงผีแมวกันถ้วนหน้าครับ


    อ้น TheTemperance