9 เทพเจ้า มูเรื่องความรัก คนโสดอยากมีคู่ต้องมูยังไงนะ? by หมอกิฟท์นางมารพยากรณ์


        ย่างเข้าเดือนมิถุนายน ราศีคนคู่ชั่งเด่นนัก เเต่เราสิเหงา ,กำลังมีปัญหาเรื่องความรัก ,เพิ่งอกหักหรือโสดมานานแล้ว อยากจะมีคนรู้ใจกับเค้าสักที  วันนี้พี่หมอกิฟท์มีทริคดีๆ  เป็นตัวช่วยเสริมมู ขอพรเรื่องความรัก กับ 8 เทพเจ้าและพระโพธิสัตว์ประทานพรเรื่องความรัก ที่รวมทั้งไทย จีน ฮินดู ธิเบต พม่า เเต่ก็ไม่ได้ห้ามนะถ้าคนมีคู่จะไปมูเสริมรักให้ขาเตียงเเข็งเเรง ก็ไม่ว่ากันจ้า เมื่อพร้อมแล้วเราไปมูกันเลย

 เทพองค์ที่ 1 : พระแม่อุมาเทวี

        พระแม่อุมาเทวี หรือ ปารวตี เทวีแห่งพลังอำนาจยิ่งใหญ่ และบารมี พระแม่ผู้เป็นใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด หากหมั่นบูชาพระองค์อย่างสม่ำเสมอ พระองค์จะประทานพรบารมีสมปรารถนาทุกประการ สำหรับคนมีคู่มีครอบครัว พระองค์จะประทานพรด้านความผาสุขในการครองเรือน ทำให้ครอบครัวเปื่ยมสุข

  • ของไหว้บูชา : ดอกไม้ที่พระองค์โปรด คือ ดอกไม้ที่มี สีเหลือง และ สีแดง โดยเฉพาะ ดอกดาวเรือง ดอกกล้วยไม้ ดอกกุหลาบ ควรมี ธูปหอม หรือ กำยาน ไว้จุดเพื่อถวายกลิ่นหอม
  • คาถาบูชา : “โอม ปาระตี กาลีทุรคา ปิยังมะมะ ทุติยัมปิ ปาระตี กาลีทุระคาปิยังมะ” 

เทพองค์ที่ 2 : พระแม่ลักษมี

          พระลักษมีเป็นเทวีแห่งความงดงาม ร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ เป็นเทพีในศาสนาฮินดูถือกำเนิดจากมหาสมุทร โดยเป็นเทพแห่งความร่ำรวย โชคชะตา และความรัก 

  • โดยของไหว้บูชา : ได้แก่ ธูป 9 ดอก และบัวสีชมพู ส่วนของที่นิยมนำมาแก้บน คือ น้ำอ้อย หรือน้ำผลไม้
  • คำบูชาพระแม่ : “โอม ศรีมหาลักษมีณ์ เจนะ มะฮา ” ท่องให้ครบ 3 จบ

เทพองค์ที่ 3 :  พระตรีมูรติ

    พระตรีมูรติมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่เพราะมีศักดิ์สูงสุดในศาสนาพราหมณ์ เนื่องจากเป็นการรวมกันของมหาเทพที่ยิ่งใหญ่ถึง 3 พระองค์ด้วยกัน คือ พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ ผู้ประทานความสมหวังทุกประการ รวมถึงด้านความรัก การบูชา เพื่อขอพรเรื่องความรัก

  • เครื่องบูชา : ควรจะเป็นดอกกุหลาบสีแดง 9 ดอก เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก หรือจะเป็นพวงมาลัยดอกกุหลาบ 1 พวง พร้อมกันนี้ต้องมีเทียนสีแดง 1 เล่ม หรือ 1 คู่ก็ได้ กรณีที่มีคู่จะใช้เป็นเทียน 1 คู่
  • เคล็ดลับการขอพร : แนะนำ เป็นวันพฤหัสบดี 21.30 หากไม่สะดวกมาจะมาวันไหนก็ได้ การขอพรจากพระตรีมูรติ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นพรเรื่องความ แต่ไม่ว่าพรด้าน การทำงาน หรือ การเรียน พระองค์ท่านก็บันดาลให้ได้

เทพองค์ที่4 : พระกฤษณะและนางราธาเทวี

 พระกฤษณะเทพแห่งความเมตตา อ่อนโยน และความรัก เป็นเทวะองค์หนึ่งในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู โดยถือเป็นรูปอวตาลของพระวิษณุ พระกฤษณะ จะขึ้นชื่อเรื่องการเป็นนักรบ และนักรัก ส่วนพระนางราธาเทวีพระองค์เป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ และรักพระกฤษณะสุดหัวใจ

  • ของไหว้บูชา ได้แก่ ดอกไม้ ผลไม้ อย่างสาลี่ ส้ม แต่อย่านำเนื้อสัตว์ หรือของคาวมาถวายเด็ดขาด ส่วนดอกไม้ นิยมนำดอกมะลิ ดอกดาวเรือง หรือดอกกุหลาบมาถวาย
  • บทสวดคือ“ ฮะเร กฤษณะ ฮะเร กฤษณะ กฤษณะ กฤษณะ ฮะเร ฮะเร ฮะเร รามะ รามะ ฮะเร ฮะเร ”

เทพองค์ที่5 : เย่ว์เซี่ยเหล่าเหริน หรือ เย่ว์เหล่า (กามเทพจีน)

เทพเย่ว์เซี่ยเหล่าเหริน หรือ เย่ว์เหล่า หรือผู้เฒ่าใต้แสงจันทร์หรือได้รับสมญานามว่า “กามเทพจีน” เป็นเทพผู้บันดาลความรัก และความเชื่อเรื่องการแต่งงานของชาวจีน มือหนึ่งถือด้ายแดง มือหนึ่งถือครองไม้เท้าแขวนสมุดสมรสรัก ชาวจีนเชื่อว่า หากผูกด้ายแดงใต้ต้นวาสนาในศาลผู้เฒ่าจันทรา และถ้าเก็บกิ่งไม้เล็กๆ พกติดตัวไว้ จะทำใคนโสดจะได้เจอกับคู่แท้ที่เหมาะสมกัน ส่วนคนที่มีคู่แล้วจะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น ส่วนใหญ่จะนิยมไปไหว้กันที่วัดหวังต้าเซียนที่ฮ่องกงแล้ว ในเมืองไทยที่ศาลเจ้านาจา จังหวัดชลบุรี


เทพองค์ที่6 : เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก

             ศาลพระนางสร้อยดอกหมากตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ความรัก ระหว่างและพระเจ้าสายน้ำผึ้งและแม่นางสร้อยดอกหมาก และศาลแห่งนี้ยังเป็นเครื่องยืนยันความสัมพันธ์แนบแน่นระหว่างไทย – จีน ศาลพระนางสร้อยดอกหมากอยู่ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมายด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีน หน้าศาลมีอักษรไทยและจีน เขียนว่า เปยเหนียง หากแปลแยกจะได้ความหมายว่า หญิงสาวผู้โศกเศร้า แต่ถ้าแปลรวมกันจะแปลได้ว่า พระแม่ผู้เปื่ยมเมตตา ถึงแม้เรื่องราวของพระพระนางสร้อยดอกหมากจะจบด้วยความเศร้าโศก แต่ก็มีผู้คนที่มาสักการะขอพรอยู่ไม่น้อย เนื่องจากพระนางสร้อยดอกหมากเป็นผู้ที่รักเดียวใจเดียว


พระโพธิสัตว์องค์ที่7 : พระนางอารยตารา หรือพระเทียร่า

 พระนางตาราเขียวผู้ช่วยปัดเป่าอุปสรรคและความทุกข์ปกป้องคุ้มครองสรรพชีวิตไว้ในอ้อมกอดอันเปื่ยมไปด้วยความรัก ซึ่งพระนางทารา หรือ ตารา คือพระโพธิสัตว์ในพุทธนิกายมหายาน ซึ่งปรากฎในรูปของเพศหญิง เชื่อกันว่า พระนางทาราคอยเฝ้ามองช่วยเหลือสรรพสัตว์ โดยได้รับความนับถืออย่างมากในแถบทิเบต และ มองโกเลีย 

บทสวดคือ : “โอม ทารา ทุทาเร ทุเร โสหะ”


เทพองค์ที่ 8 : ย่านาค

          ย่านาค หรือแม่นาค ซึ่งโด่งดังในเรื่องของความรักและความจงรักภักดีในความรักและความรักเดียวใจเดียวของแม่นาค จึงทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมาย ด้วยเหตุนี้เองจึงก่อให้เกิดศาลย่านาคที่ผู้คนต่างมาขอพรเรื่องความรัก เผื่อจะได้พบคนรักที่ซื่อสัตย์ต่อกัน  การบูชาให้นำธูป 2 ดอก ดอกไม้หรือพวงมาลัย มากราบไหว้ และขอพร


เทพองค์ที่ 9 : เจ้าเเม่กระซิบ

           อะมาดอว์เมี๊ยะ หรือเจ้าเเม่กระซิบ ตามตำนานเล่าว่า เป็นธิดาของพญานาค ที่ศรัทธาในพุทธศาสนา จนสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัตที่ชาวพม่าเคารพกราบไหว้ ตามความเชื่อของชาวพม่าเชื่อว่าหากต้องการอธิษฐานหรือขอพรให้ไปกระซิบที่ข้างหูของแม่กระซิบแล้วใช้น้ำนมจ่อไว้ที่ปาก บูชาด้วยข้าวตอก ดอกไม้และผลไม้ จะได้พรตามที่ปรารถนา